วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550
TOEFL
ข้อมูลดีๆจาก วิชาการ.คอม (www.vcharkarn.com) เขียนโดย wimma
TOEFL คือ แบบทดสอบความสามารถ ในการใช้ภาษาอังกฤษ ของผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาประจำชาติ โดยที่ จะจัดการสอบเป็นแบบปรนัย เพื่อวัดความเข้าใจ ภาษาอังกฤษ (แบบอเมริกาเหนือ) ปัจจุบันการสอบ TOEFL ได้เปลี่ยนมาใช้การทดสอบแบบ Computer - Based Testing แทนการทดสอบแบบ Paper test โดย เชื่อว่าวิธีนี้ จะสามารถวัดระดับ ความรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียน ได้ถูกต้อง ใกล้เคียงความเป็นจริง มากกว่าการสอบแบบเดิม (Paper - Based Test) และไม่เป็นปัญหาอุปสรรค สำหรับผู้สอบ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ ในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์มาก่อน เนื่องจาก ETS จะให้ผู้สอบทุกคน ได้ฝึกใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer - Based Tutorial) ก่อน และ ใช้ CD ROM ทดลองทำก่อนการสอบจริง ซึ่งการทดสอบแบบ Computer - Based Testing จะแบ่งแบบทดสอบออกเป็นสี่ส่วน ซึ่งใช้เวลาประมาณ สามชั่วโมงครึ่งถึงสี่ชั่วโมง โดยแต่ละส่วน จะกำหนดจำนวนคำถาม พร้อมระยะเวลาในการใช้ทำแบบทดสอบไว้ดังนี้
เวลาที่ใช้ในการสอบแต่ละส่วน และจำนวนคำถามการเตรียมตัว (Tutorials) ไม่จำกัดเวลา แต่ทั้งนี้ไม่ควรจะนานมาก เพราะว่า เวลารวมทั้งสิ้นต้องไม่เกิน สี่ชั่วโมง เป็นการฝึกใช้คอมพิวเตอร์ในการสอบ ทางที่ดีควรจะฝึกซ้อมมาก่อน
การฟัง(Listening) ทดสอบทักษะการฟังภาษาอังกฤษแบบอเมริกาเหนือ ใช้เวลา40-60 นาที จำนวน 30-50 ข้อ
ไวยากรณ์ (Structure) 15-20 นาที จำนวน 20-25 ข้อจากนั้นพัก 5 นาที
การอ่าน (Reading) ทดสอบความเข้าใจในการอ่านเรื่องสั้นๆ ใช้เวลา 70-90 นาที จำนวน 44-55 ข้อ
การเขียน (Writing) ทดสอบความสามารถในการเขียนความเรียงในหัวข้อที่กำหนดให้ หนึ่งหัวข้อ ในเวลา 30 นาที ลักษณะคำถาม ส่วนใหญ่แล้วเป็นแบบปรนัย หรือ มีคำตอบให้เลือกตอบ แต่ปัจจุบันมีคำถามลักษณะใหม่ๆ ออกมาค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น คำถามที่ให้เลือกภาพในการตอบ หรืออาจเป็นคำถามที่มีหลายคำตอบ หรือ ให้เรียงลำดับสิ่งของ หรือ จับคู่ให้เป็นหมวดหมู่
TOEFL คือ แบบทดสอบความสามารถ ในการใช้ภาษาอังกฤษ ของผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาประจำชาติ โดยที่ จะจัดการสอบเป็นแบบปรนัย เพื่อวัดความเข้าใจ ภาษาอังกฤษ (แบบอเมริกาเหนือ) ปัจจุบันการสอบ TOEFL ได้เปลี่ยนมาใช้การทดสอบแบบ Computer - Based Testing แทนการทดสอบแบบ Paper test โดย เชื่อว่าวิธีนี้ จะสามารถวัดระดับ ความรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียน ได้ถูกต้อง ใกล้เคียงความเป็นจริง มากกว่าการสอบแบบเดิม (Paper - Based Test) และไม่เป็นปัญหาอุปสรรค สำหรับผู้สอบ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ ในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์มาก่อน เนื่องจาก ETS จะให้ผู้สอบทุกคน ได้ฝึกใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer - Based Tutorial) ก่อน และ ใช้ CD ROM ทดลองทำก่อนการสอบจริง ซึ่งการทดสอบแบบ Computer - Based Testing จะแบ่งแบบทดสอบออกเป็นสี่ส่วน ซึ่งใช้เวลาประมาณ สามชั่วโมงครึ่งถึงสี่ชั่วโมง โดยแต่ละส่วน จะกำหนดจำนวนคำถาม พร้อมระยะเวลาในการใช้ทำแบบทดสอบไว้ดังนี้ เวลาที่ใช้ในการสอบแต่ละส่วน และจำนวนคำถามการเตรียมตัว (Tutorials) ไม่จำกัดเวลา แต่ทั้งนี้ไม่ควรจะนานมาก เพราะว่า เวลารวมทั้งสิ้นต้องไม่เกิน สี่ชั่วโมง เป็นการฝึกใช้คอมพิวเตอร์ในการสอบ ทางที่ดีควรจะฝึกซ้อมมาก่อน การฟัง(Listening) ทดสอบทักษะการฟังภาษาอังกฤษแบบอเมริกาเหนือ ใช้เวลา40-60 นาที จำนวน 30-50 ข้อไวยากรณ์ (Structure) 15-20 นาที จำนวน 20-25 ข้อจากนั้นพัก 5 นาทีการอ่าน (Reading) ทดสอบความเข้าใจในการอ่านเรื่องสั้นๆ ใช้เวลา 70-90 นาที จำนวน 44-55 ข้อการเขียน (Writing) ทดสอบความสามารถในการเขียนความเรียงในหัวข้อที่กำหนดให้ หนึ่งหัวข้อ ในเวลา 30 นาที ลักษณะคำถาม ส่วนใหญ่แล้วเป็นแบบปรนัย หรือ มีคำตอบให้เลือกตอบ แต่ปัจจุบันมีคำถามลักษณะใหม่ๆ ออกมาค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น คำถามที่ให้เลือกภาพในการตอบ หรืออาจเป็นคำถามที่มีหลายคำตอบ หรือ ให้เรียงลำดับสิ่งของ หรือ จับคู่ให้เป็นหมวดหมู่
วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550
การสอนแบบชักชวน
การสอนแบบชักชวน (Suggestopedia)
การสอนแบบชักชวนพัฒนาขึ้นมา โดยนักจิตวิทยาการศึกษาชาวบูลกาเรีย ชื่อ Georgi Lozanov วิธีสอนนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิดว่าสมองซีกกขวาของมนุษย์พัฒนาได้ดีจากการใช้เทคนิค "ชักชวน" (suggestion) ดังนั้น suggestopedia จึงเป็นวิธีที่ครูต้องมีทักษะ ในการร้องเพลงแสดงท่าทาง และรู้เทคนิคการบำบัดทางจิตวิทยา (psychotherapeutic techniques) วิธีการสอนจะใช้เทคนิคการออกกำลังกาย เพื่อขจัดความวิตกกังวลที่เป็นเหตุให้สะกัดกั้นการเรียนรู้ของผู้เรียนกิจกรรมต่างๆดังกล่าวประกอบด้วยการใช้ดนตรี รูปภาพ (visual image) บทสนทนาต่าง ๆ ที่ให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมเหล่านี้ภายใต้บรรยากาศที่สบายไม่เป็นทางการไม่มีการแก้ไข ข้อผิดพลาดของผู้เรียน Lozanov ยอมรับแนวคิดโยคะและจิตวิทยาของโซเวียต เขาดัดแปลงวิธีการกำหนดจังหวะการหายใจแบบ raja-yoga และจากกลุ่มนักจิตวิทยาโซเวียต Lozanov นำแนวคิด เรื่องการจัดสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้หลักสำคัญของวิธีสอนแบบนี้คือ การใช้จังหวะและดนตรีเพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดการจำและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ผู้เรียนอาจนั่งหลับตากำหนดลมหายใจ หรือสร้างจินตนาการผ่อนคลายความตึงเครียดและความวิตกกังวล ในขณะที่ครูเปิดเพลงเบา ๆ Lozanov เชื่อว่าดนตรีสามารถทำให้ผู้เรียนผ่อนคลายได้ (Richards and Theordove. 1995 : 142) กิจกรรมการเรียนที่ suggestopedia เน้นคือกิจกรรมการฟัง ผู้สอนจะใช้ภาษาสนทนา ที่มีคำแปลเป็นภาษาของผู้เรียนรวมทั้งไวยากรณ์และคำศัพท์จากบทสนทนาไว้ด้านหนึ่งด้วย ผู้สอนจะอ่านบทสนทนาให้ผู้เรียนฟัง 3 ครั้ง ในครั้งแรก ผู้เรียนฟังบทสนทนาที่ครูอ่านให้ฟังโดยอ่านคำแปลไปด้วย ในการอ่านครั้งที่สองผู้เรียนอาจดูบทเรียนไปด้วย และจดรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ในการอ่านครั้งที่สามนั้น ผู้อ่านจะเปิดเพลงคลาสสิกไปพร้อม ๆ กัน ผู้เรียนได้รับอนุญาตให้วางหนังสือ และเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ตามสบาย จะหลับตาฟัง หรือจะหยิบบทเรียนขึ้นมาอ่านตามก็ได้ ในขั้นต่อไปอาจให้ผู้เรียนเล่นเกมทางภาษา การเล่นละครสั้น การร้องเพลง การถามตอบเพื่อให้ภาษาในการสื่อสารการจัดกิจกรรมจะทำเป็นกลุ่มผู้เรียนจะไม่ถูกบังคับให้ทำงานเป็นรายบุคคลกิจกรรมทุกกิจกรรมต้องเสริมให้ผู้เรียนเกิดความมั่นใจ และรู้สึกว่าไม่ถูกบังคับให้ทำในระยะเริ่มแรกผู้สอนจะไม่แก้ไขข้อผิดพลาดทันที แต่จะนำสิ่งที่ถูกต้องมาสอนในวันต่อไป
http://wbc.msu.ac.th/wbc/edu/0506714/Unit_1/Unit_1_8.htm
การสอนแบบชักชวนพัฒนาขึ้นมา โดยนักจิตวิทยาการศึกษาชาวบูลกาเรีย ชื่อ Georgi Lozanov วิธีสอนนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิดว่าสมองซีกกขวาของมนุษย์พัฒนาได้ดีจากการใช้เทคนิค "ชักชวน" (suggestion) ดังนั้น suggestopedia จึงเป็นวิธีที่ครูต้องมีทักษะ ในการร้องเพลงแสดงท่าทาง และรู้เทคนิคการบำบัดทางจิตวิทยา (psychotherapeutic techniques) วิธีการสอนจะใช้เทคนิคการออกกำลังกาย เพื่อขจัดความวิตกกังวลที่เป็นเหตุให้สะกัดกั้นการเรียนรู้ของผู้เรียนกิจกรรมต่างๆดังกล่าวประกอบด้วยการใช้ดนตรี รูปภาพ (visual image) บทสนทนาต่าง ๆ ที่ให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมเหล่านี้ภายใต้บรรยากาศที่สบายไม่เป็นทางการไม่มีการแก้ไข ข้อผิดพลาดของผู้เรียน Lozanov ยอมรับแนวคิดโยคะและจิตวิทยาของโซเวียต เขาดัดแปลงวิธีการกำหนดจังหวะการหายใจแบบ raja-yoga และจากกลุ่มนักจิตวิทยาโซเวียต Lozanov นำแนวคิด เรื่องการจัดสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้หลักสำคัญของวิธีสอนแบบนี้คือ การใช้จังหวะและดนตรีเพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดการจำและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ผู้เรียนอาจนั่งหลับตากำหนดลมหายใจ หรือสร้างจินตนาการผ่อนคลายความตึงเครียดและความวิตกกังวล ในขณะที่ครูเปิดเพลงเบา ๆ Lozanov เชื่อว่าดนตรีสามารถทำให้ผู้เรียนผ่อนคลายได้ (Richards and Theordove. 1995 : 142) กิจกรรมการเรียนที่ suggestopedia เน้นคือกิจกรรมการฟัง ผู้สอนจะใช้ภาษาสนทนา ที่มีคำแปลเป็นภาษาของผู้เรียนรวมทั้งไวยากรณ์และคำศัพท์จากบทสนทนาไว้ด้านหนึ่งด้วย ผู้สอนจะอ่านบทสนทนาให้ผู้เรียนฟัง 3 ครั้ง ในครั้งแรก ผู้เรียนฟังบทสนทนาที่ครูอ่านให้ฟังโดยอ่านคำแปลไปด้วย ในการอ่านครั้งที่สองผู้เรียนอาจดูบทเรียนไปด้วย และจดรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ในการอ่านครั้งที่สามนั้น ผู้อ่านจะเปิดเพลงคลาสสิกไปพร้อม ๆ กัน ผู้เรียนได้รับอนุญาตให้วางหนังสือ และเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ตามสบาย จะหลับตาฟัง หรือจะหยิบบทเรียนขึ้นมาอ่านตามก็ได้ ในขั้นต่อไปอาจให้ผู้เรียนเล่นเกมทางภาษา การเล่นละครสั้น การร้องเพลง การถามตอบเพื่อให้ภาษาในการสื่อสารการจัดกิจกรรมจะทำเป็นกลุ่มผู้เรียนจะไม่ถูกบังคับให้ทำงานเป็นรายบุคคลกิจกรรมทุกกิจกรรมต้องเสริมให้ผู้เรียนเกิดความมั่นใจ และรู้สึกว่าไม่ถูกบังคับให้ทำในระยะเริ่มแรกผู้สอนจะไม่แก้ไขข้อผิดพลาดทันที แต่จะนำสิ่งที่ถูกต้องมาสอนในวันต่อไป
http://wbc.msu.ac.th/wbc/edu/0506714/Unit_1/Unit_1_8.htm
การสอนแบบตรง Direct method
การสอนแบบตรง (direct method)
การสอนแบบตรงเป็นวิธีแรกหลังจากเกิดการปฏิรูปทางด้านการสอนภาษาต่างประเทศเนื่องจากนักภาษาศาสตร์เห็นว่าวิธีสอนแบบไวยากรณ์และแปลมิได้ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร
ดังนั้นจุดมุ่งหมายของการสอนแบบตรงคือมุ่งให้ผู้เรียนใช้ภาษาเพื่อการติดต่อสื่อสาร บทเรียนส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยกิจกรรมที่เป็นบทสนทนา เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ใช้ภาษาในสถานการณ์ต่าง ๆ
ผู้เรียนจะถูกกระตุ้นให้ใช้ภาษาต่างประเทศที่กำลังเรียนอยู่ตลอดเวลา โดยไม่มีการใช้ภาษาของผู้เรียนเลย เวลาสอนผู้สอนจะพยายามสร้างสภาพแวดล้อมในห้องเรียน ให้เหมือนสภาพแวดล้อมที่ต้องใช้ภาษาต่างประเทศ ผู้สอนจะใช้ภาษาต่างประเทศตลอดเวลา ไม่มีการเน้นสอนไวยากรณ์จะไม่มีการบอกกฎไวยากรณ์อย่างชัดเจน แต่การเรียนรู้ไวยากรณ์จะเรียนรู้อยากตัวอย่างและการใช้ภาษา แล้วสรุปกฎเกณฑ์ ถึงแม้จะมีการฝึกทักษะทั้ง 4 คือ ฟัง-พูด อ่าน เขียน แต่การฝึกทักษะพูดเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดทักษะอ่าน และเขียนจะมีพื้นฐานมาจากการพูดก่อน วิธีสอนแบบนี้เน้นการรู้วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของผู้พูดภาษา
สรุปลักษณะสำคัญของการสอนแบบตรงดังนี้
- ใช้ภาษาเป้าหมายเท่านั้น
- ผู้เรียนจะถูกฝึกให้ใช้ภาษาเป้าหมายที่เป็นภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน
- ผู้เรียนถูกกระตุ้นให้คิดเป็นภาษาเป้าหมาย
- ทักษะแรกที่เน้นคือทักษะพูดแล้วจึงพัฒนาทักษะอ่าน
http://wbc.msu.ac.th/wbc/edu/0506714/Unit_1/Unit_1_4.htm
การสอนแบบตรงเป็นวิธีแรกหลังจากเกิดการปฏิรูปทางด้านการสอนภาษาต่างประเทศเนื่องจากนักภาษาศาสตร์เห็นว่าวิธีสอนแบบไวยากรณ์และแปลมิได้ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร
ดังนั้นจุดมุ่งหมายของการสอนแบบตรงคือมุ่งให้ผู้เรียนใช้ภาษาเพื่อการติดต่อสื่อสาร บทเรียนส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยกิจกรรมที่เป็นบทสนทนา เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ใช้ภาษาในสถานการณ์ต่าง ๆ
ผู้เรียนจะถูกกระตุ้นให้ใช้ภาษาต่างประเทศที่กำลังเรียนอยู่ตลอดเวลา โดยไม่มีการใช้ภาษาของผู้เรียนเลย เวลาสอนผู้สอนจะพยายามสร้างสภาพแวดล้อมในห้องเรียน ให้เหมือนสภาพแวดล้อมที่ต้องใช้ภาษาต่างประเทศ ผู้สอนจะใช้ภาษาต่างประเทศตลอดเวลา ไม่มีการเน้นสอนไวยากรณ์จะไม่มีการบอกกฎไวยากรณ์อย่างชัดเจน แต่การเรียนรู้ไวยากรณ์จะเรียนรู้อยากตัวอย่างและการใช้ภาษา แล้วสรุปกฎเกณฑ์ ถึงแม้จะมีการฝึกทักษะทั้ง 4 คือ ฟัง-พูด อ่าน เขียน แต่การฝึกทักษะพูดเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดทักษะอ่าน และเขียนจะมีพื้นฐานมาจากการพูดก่อน วิธีสอนแบบนี้เน้นการรู้วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของผู้พูดภาษา
สรุปลักษณะสำคัญของการสอนแบบตรงดังนี้
- ใช้ภาษาเป้าหมายเท่านั้น
- ผู้เรียนจะถูกฝึกให้ใช้ภาษาเป้าหมายที่เป็นภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน
- ผู้เรียนถูกกระตุ้นให้คิดเป็นภาษาเป้าหมาย
- ทักษะแรกที่เน้นคือทักษะพูดแล้วจึงพัฒนาทักษะอ่าน
http://wbc.msu.ac.th/wbc/edu/0506714/Unit_1/Unit_1_4.htm
วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2550
Let listen to this song..

Hi! evertone, I would like to acquaint a song to you.
This song was sing by Kelly Chen, she is Asian star.
My friends and I like this song very much and I
think if you listen to it you will like it too.This song is
Lover's Concerto
How gentle is the rain
That falls softly on the meadow
Birds high up in the trees
Serenade the clouds with their melody
Oh! See there beyond the hills
The bright colors of the rainbow
Some magic from above
Made this day for us
Just to fall in love
You hold me in your arms
And say once again you love me
And if your love is true
Everything will be just as wonderful
Now, I belong to you
From this day until forever
Just love me tenderly
And I'll give to you
Every part of me
Oh! Don't ever make me cry
Through long lonely nights without love
Be always true to me
Keep this day in your heart eternally
You hold me in your arms
And say once again you love me
And if your love is true
Everything will be just as wonderful
You can go to this website for listening to this song.
วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
Holiday Maze

I think Holiday Maze is reading for detail.
Skills that the students can practise with this
program are reading skill and analysis the infoamation.
I can use these activities with my learners,
becaues they are useful for my students. When they
read it they can use their reading skill to analyse
the information. The problem are likely to occuer
if I use the activities with my student are less of
their concentration to read and may be confuse
to select the best answer. I will solves the problems
by tell them don't hurry to read it, be concentrate.
And choose the answer carefully.
วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
Task 3: Reading Mazes
1. Kinds of reading skills can be practised with
Reading Mazes are scan reading, skimming reding
and detail reading.
2.Yes,I think of any skill that can be practised
with this program that is speaking skill.
3.I wil ues these activities with my learner becaues
they should know what is the aim when they read a
story,scan reading,skimm reading or detail reading.
4. Problems that I think will happen with my learn
are they may be not clear what kinds of reading
skills that they have to use.And What the main idea
of the story.
5.I will tell them clearly about kinds of reading
skills for helping them to select the kind of
reading skills.And tell them how to know the main
idea of a story.
Reading Mazes are scan reading, skimming reding
and detail reading.
2.Yes,I think of any skill that can be practised
with this program that is speaking skill.
3.I wil ues these activities with my learner becaues
they should know what is the aim when they read a
story,scan reading,skimm reading or detail reading.
4. Problems that I think will happen with my learn
are they may be not clear what kinds of reading
skills that they have to use.And What the main idea
of the story.
5.I will tell them clearly about kinds of reading
skills for helping them to select the kind of
reading skills.And tell them how to know the main
idea of a story.
วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
Task 1: Visite 3 blogs.
An ELT Notebook
I think this blog is a tutor blog and it is very
useful for language teachers because there are many
on-line courses, topics about kinds of teaching English
for examples; reading, speaking and there are free
flashcards and worksheets for the teachers too.
Moreover,there are moer knowledge about English
that the teachres can link to get more information.
Happy Day
I think this blog is class blog and it have more
empty area which not attractive,but the language
teachers can link for get news information by
google news.
Http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/index.shtml
I think this blog is tutor blog and it is useful for
language teachers because there are many topics
for examples; news English, watch and listen
( music, pictuers, stories) and so on. The teachers
can download free lesson plans too.
I think this blog is a tutor blog and it is very
useful for language teachers because there are many
on-line courses, topics about kinds of teaching English
for examples; reading, speaking and there are free
flashcards and worksheets for the teachers too.
Moreover,there are moer knowledge about English
that the teachres can link to get more information.
Happy Day
I think this blog is class blog and it have more
empty area which not attractive,but the language
teachers can link for get news information by
google news.
Http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/index.shtml
I think this blog is tutor blog and it is useful for
language teachers because there are many topics
for examples; news English, watch and listen
( music, pictuers, stories) and so on. The teachers
can download free lesson plans too.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)